นักวิทยาศาสตร์คิดแผนสำหรับเพื่อการทำให้น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือรวมทั้งขั้วโลกใต้กลับมาเย็นอีกที รวมทั้งลดอุณหภูมิโลกลง
ผลพวงที่ใหญ่ที่สุดของปัญหาสภาวะโลกร้อนและก็วิกฤตความเคลื่อนไหวสภาพอากาศ เป็นการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นโดยตลอด ซึ่งถ้าหากละลายหมดอาจส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงมากขึ้นแทบ 10 เมตร พวกเราต่างเข้าใจกันอยู่ว่า ในเรื่องของปัญหาสภาวะโลกร้อนรวมทั้งวิกฤตความเคลื่อนไหวลักษณะของอากาศนั้น กรรมวิธีปรับปรุงมีอยู่นานาประการ ไม่ว่าจะเป็นการลดปลดปล่อยคาร์บอน ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดปริมาณของการรับประทานเนื้อสัตว์ ลดการตัดต้นไม้ทำลายป่าไม้ อื่นๆอีกมากมาย กลุ่มนี้ล้วนเป็นคำตอบที่มีการติดต่อกันมานานหลายสิบปี แต่ว่ายังคงขาดความร่วมแรงร่วมมือจากคนทั่วโลก หลายประเทศกล่าวถึงว่าจำเป็นต้องใช้เวลาอีกมากยิ่งกว่าที่จะพร้อมลดกิจกรรมที่ทำให้โลกร้อน ทำให้มันยังคงเป็นเสมือนโรคเรื้อรังที่กำลังจะไม่มีวี่แววบำบัดรักษาเข้าไปทุกครั้ง
ปัญหาใหญ่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกในช่วงเวลานี้ ก็เลยเป็นการอุตสาหะหาทางปรับปรุงแก้ไขที่จะใช้เวลาน้อยและก็ทรงพลังที่สุด เนื่องจากว่าหากต้องการให้คอยจนถึงทุกคนพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงความประพฤติปฏิบัติหรือลดกิจกรรมที่เป็นภัย ก็บางครั้งก็อาจจะสายเกินแก้ไปแล้ว ปัจจุบัน เวค สมิธ จากมหาวิทยาลัยเยล รวมทั้งทีมงานนักวิจัย ได้เสนอแผนใหม่สำหรับเพื่อการลดอุณหภูมิโลกที่กำลังสูงมากขึ้นเรื่อยโดยทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือรวมทั้งขั้วโลกใต้กลับมาเย็นอีกที แล้วก็ลดอัตราการละลายของน้ำแข็ง การจะทำแบบนั้น นักวิทยาศาสตร์เสนอแผนให้นำเครื่องบินไอพ่นบินขึ้นไปที่ระดับความสูง 43,000 ฟุต (เหนือกว่าระดับความสูงธรรมดาของเที่ยวบินการขาย) แล้วพ่นอนุภาคซัลเฟอร์ไดออกไซด์ขนาดเล็กสู่ชั้นบรรยากาศเพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกได้รับความร้อนลดน้อยลง
การพ่นอนุภาคพวกนี้จำเป็นจะต้องปฏิบัติงานที่ตำแหน่งละติจูด 60 องศาเหนือและก็ละติจูด 60 องศาใต้ ซึ่งจะตรงกับรอบๆแองเคอเรจ อะลาสกา และก็ภูมิภาคขว้างตาโกเนียในประเทศอาร์เจนตินา-ประเทศชิลี ละอองลอยกลุ่มนี้จะเบาๆลอยไปทางขั้วโลกเหนือและก็ขั้วโลกใต้ การฉีดพ่นอนุภาคจะปฏิบัติงานในฤดูใบไม้ผลิแล้วก็ต้นหน้าร้อน โดยใช้เรือบินที่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับภารกิจนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น 125 ลำ ที่สามารถสับเปลี่ยนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งคู่ซีกโลก แต่ว่าโดยรวมควรมีเที่ยวบินราวๆ 175,000 ท่องเที่ยวต่อปี